สถานที่ : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ผู้ว่าจ้าง : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
วันที่เริ่มโครงการ : 13 มีนาคม 2567
วันสิ้นสุดโครงการ : 8 พฤศจิกายน 2567
วัตถุประสงค์
- ให้คำปรึกษาแนวทางการกำหนดนโยบาย แผนการดำเนินงาน การบริหารจัดการ และทิศทางการพัฒนาด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของกรมฯ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจการพาณิชย์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงสอดคล้องกับแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง
- ศึกษา วิเคราะห์ ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ระบบงานประยุกต์ ระบบจัดการฐานข้อมูล และระบบเครือข่ายของกรมฯ ในปัจจุบัน และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารจัดการทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย หรือระเบียบต่างๆ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ประกาศใช้ในปัจจุบัน
- ให้คำปรึกษาแนวทางการพัฒนาระบบฐานข้อมูลและเครือข่ายเชื่อมโยงระบบสารสนเทศ ระหว่างกรมฯ และกระทรวงตลอดจนแนะนําการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศของกรม
ขอบเขตการดำเนินงาน
- จัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้คำปรึกษา ร่วมกำหนดแผนด้านสารสนเทศ แนะนำเครื่องมือ วิธีการ แนวทางการพัฒนา การควบคุมความเสี่ยงด้านการพัฒนาระบบ การแก้ไขปัญหา และการบริหารจัดการเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบฐานข้อมูล และเครือข่ายเชื่อมโยงระบบ สารสนเทศของกรม ดังนี้
1.1 ให้คำแนะนำในการบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหา การวิเคราะห์ข้อมูลและระบบ สารสนเทศในเชิงเทคนิคระดับสูง (High-level Technical Management and Troubleshooting)
1.2 ให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาประยุกต์ และปรับใช้ในการวางระบบงาน การเชื่อมต่อระหว่างระบบ และให้คำแนะนำในการใช้ประโยชน์เครื่องมือด้าน เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การใช้เครื่องมือในการบูรณาการข้อมูลระหว่างระบบ และการใช้ซอฟต์แวร์ช่วยบริหาร และพัฒนาระบบสารสนเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายของโครงการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน รวมทั้งปรับปรุงระบบข้อมูลเพื่อสนับสนุนการบริหารและการตัดสินใจของผู้บริหารและของกรมได้อย่างรวดเร็ว
1.3 ให้คำแนะนำด้านเทคนิคในการจัดทำข้อกำหนด และการบริหารโครงการ สำหรับ โครงการที่เกี่ยวกับด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยร่วมกับกรมฯ ในการจัดทำร่างข้อกำหนด ทางด้านเทคนิคของโครงการไม่น้อยกว่า 3 โครงการ
1.4 ศึกษา วิเคราะห์ ให้คำแนะนำและปรับปรุงโครงสร้างระบบฐานข้อมูลของกรม เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบงานหรือหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกกรมได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
1.5 ให้คำแนะนำในการนำมาตรฐานสากลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการ ดำเนินงานด้านการบริหารจัดการ และการกำกับดูแลข้อมูลและระบบสารสนเทศของกรมได้อย่างเหมาะสม
1.6 ให้คำแนะนำด้านเทคนิคในการใช้ประโยชน์เครื่องมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึง ผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์การปฏิบัติงานของกรมฯ เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ช่วย มีส่วนร่วมในการ บริหารและพัฒนาระบบสารสนเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายของโครงการ
1.7 จัดฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับเจ้าหน้าที่กรมและบุคลากรด้าน IT จำนวน 1 ครั้ง (หัวข้อหลักสูตรเป็นไปตามที่กรมกำหนด)
1.8 จัดกิจกรรมร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับ Cyber Security Awareness สัปดาห์ละ 1 คำถาม พร้อมของรางวัล สำหรับผู้ที่ตอบคำถามถูกอย่างน้อย 1 ชิ้น
- ให้คำปรึกษาในการบริหารจัดการและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรม ซึ่งดำเนินการภายใต้แผนงาน/โครงการ ในปีงบประมาณ 2567 โดยบริหารจัดการโครงการด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ ดังนี้
2.1 ให้คำแนะนำในการพิจารณามาตรฐานที่ใช้ในการออกแบบและพัฒนาระบบงาน ของบริษัทผู้รับจ้างพัฒนาระบบ
2.2 ให้คำแนะนำกับคณะทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของกรม เพื่อแลกเปลี่ยน ข้อคิดเหะและข้อเสนอแนะ รวมถึงให้คำปรึกษาในการจัดซื้อจัดจ้าง และตรวจรับระบบงานด้านเทคนิค ของระบบสารสนเทศของกรม
2.3 ชี้แจง ทำความเข้าใจและให้คำแนะนำกับบริษัทผู้รับจ้างพัฒนาระบบงาน คอมพิวเตอร์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและเจ้าหน้าที่ของกรม รวมทั้งประสานงานเพื่อให้การพัฒนา ระบบเป็นไปอย่างถูกต้องตามแผนการดำเนินงานที่กรมกำหนด
2.4 ให้คำแนะนำทางเทคนิคและช่วยกำกับดูแลการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อบริหารจัดการและควบคุมการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแก่เจ้าหน้าที่และบริษัทผู้รับจ้างพัฒนา ระบบงานคอมพิวเตอร์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรม
- ที่ปรึกษาฯ จะต้องเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการ/คณะทำงาน/เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และให้คำปรึกษา คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ วิธีการ หรือข้อสรุปแนวทางในการพัฒนา ควบคุม บริหารจัดการ ในการดำเนินงานภายใต้แผนงาน/โครงการ และแก้ไขปัญหาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งหมดของกรมฯ จำนวนรวมกันไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง ตลอดระยะเวลาโครงการจ้างที่ปรึกษาฯ
- มีทีมงานที่ดำเนินการในข้อ 1 – 3 จำนวน 4 คน โดยมีผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านคอมพิวเตอร์หรือการสื่อสารจำนวน 3 คน และผู้ที่จบระดับปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์หรือการสื่อสาร หรือเศรษฐศาสตร์ จำนวน 1 คน และบุคลากรทั้งหมดเป็นบุคลากรประจำของผู้เสนอราคา
ในกรณีที่ที่ปรึกษาฯ ต้องปฏิบัติงานอย่างใดอย่างหนึ่งเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในข้อ 1 – 3 เนื่องจากมีเหตุใดๆ นอกเหนือจากการควบคุมของที่ปรึกษาฯ เกิดขึ้น ซึ่งไม่อาจคาดหมายล่วงหน้าได้ หรือเนื่องจากกรมฯ ได้ตกลงเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขงานอันสืบเนื่องมาจากการเรียกร้องของกรมฯ ที่ปรึกษาฯ จะต้องสามารถให้คำปรึกษาแก่กรมฯ ได้ และให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกรอบการดำเนินงาน ทั้งนี้ กรมฯ และที่ปรึกษาฯ จะร่วมพิจารณากรอบการดำเนินงานใหม่ โดยมีปริมาณงานเทียบเท่าและไม่น้อยกว่าปริมาณงานเดิม